ทำยังไงให้แบตเตอรี่ใช้ได้นานขึ้น

ทุกวันนี้ รถยนต์ถือว่าเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการดำรงชีวิตประจำวันของพวกเรา สังเกตได้จากท้องถนนในกรุงเทพมหานคร ไม่ว่าจะไปในเส้นทางไหนก็ล้วนแล้วแต่มีทั้งรถยนต์เต็มพื้นที่การจราจร ซึ่งอาจส่งผลให้อะไหล่รถยนต์ต่างๆ ของเรานั้นเสื่อมก่อนอายุอันควร การดูแลรักษารถยนต์จึงเป็นเรื่องที่สำคัญไม่น้อยเลยทีเดียว

แบตเตอรี่ถือว่าเป็นอีกหนึ่งอะไหล่สำคัญของระบบไฟฟ้าในรถยนต์ที่เราไม่ควรมองข้าม อย่างที่เราทราบกันดีว่าแบตเตอรี่รถยนต์นั้น เป็นแหล่งสะสมพลังงานไฟฟ้าและจ่ายไฟไปหล่อเลี้ยงส่วนต่างๆ ของรถยนต์ที่ต้องใช้ไฟฟ้า อาทิ ระบบไฟในรถยนต์ทั้ง ไฟหน้า,ไฟท้าย, ไฟในห้องโดยสาร,ระบบวิทยุ ฯลฯ และทำให้ไดชาร์จรถยนต์ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ชาร์จไฟกลับสู่แบตเตอรี่ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพเต็มร้อยอีกด้วย

แต่เนื่องจากแบตเตอรี่นั้นมีอายุการใช้งานค่อนข้างสั้น โดยทั่วไปมีอายุการใช้งานเพียง 1.5-3 ปี หากเทียบกับอะไหล่ในส่วนอื่นๆที่มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน เช่น หลอดไฟ, ไดชาร์จ, อะไหล่ตัวถัง ฯลฯ การยืดอายุแบตเตอรี่ให้มีการใช้ที่ยาวนานมากยิ่งขึ้น ถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญที่เพื่อนๆ ควรจะปฏิบัติกันเป็นชีวิตประจำวัน รับรองว่าปัญหาต่างๆ ที่เกี่ยวกับแบตเตอรี่ จนทำให้ไฟเตือนแบตเตอรี่รถยนต์โชว์ หรือแบตเตอรี่หมดกลางทางจนต้องหารถมาพ่วงแบตเตอรี่นั้น ไม่เกิดกับเพื่อนๆ อย่างง่ายๆ แน่นอน

ก่อนอื่นเรามาทราบกันก่อนว่าสิ่งที่ทำให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพนั้นมีหลายอย่าง อยากให้เพื่อนๆ ลองสังเกตกันก่อนว่าในชีวิตประจำวันนั้น เรามีการใช้งานที่เสี่ยงต่อการทำให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพก่อนเวลาอันควรหรือไม่ ทั้งการใช้รถยนต์ในเวลากลางคืนทำให้ต้องเปิดไฟรถเป็นเวลานานๆ, การติดเครื่องเสียงรถยนต์จำนวนมากทำให้ต้องใช้ระบบไฟมาก, การใช้กล้องติดรถยนต์ที่ต้องเสียบไฟกับที่จุดบุหรี่, การชาร์จโทรศัพท์ในรถยนต์, การเปิดแอร์เป็นเวลานานๆ, การใช้รถเป็นเวลายาวนานในเวลากลางวัน หรือแม้กระทั่งการใช้รถยนต์น้อย ,ห้องเครื่องสกปรก หรือแทบไม่ใช้รถยนต์เลย (จอดรถยนต์เป็นเวลาหลายวัน) ก็ทำให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพได้เช่นกัน แต่หากว่าหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็มีวิธียืดอายุแบตเตอรี่ของเพื่อนๆ มาให้ได้ชมกันดังนี้

• ตรวจสภาพและดูแลรักษาแบตเตอรี่ ทั้งสภาพรอยร้าวต่างๆ ที่จะทำให้แบตเตอรี่ไม่เก็บประจุไฟฟ้า,การทำความสะอาดแบตเตอรี่อยู่เสมอ หากมีคราบขี้เกลือขึ้นที่ขั้วแบตให้ทำความสะอาดทันที โดยการใช้กระดาษทรายขัดและเช็ดให้แห้งสะอาด และป้องกันการเกิดขี้เกลืออีกด้วยการทาจาระบีที่ขั้วแบต

• การทำความสะอาดแบตเตอรี่อยู่เสมอ หากมีคราบขี้เกลือขึ้นที่ขั้วแบตให้ทำความสะอาดทันที โดยการใช้กระดาษทรายขัดและเช็ดให้แห้งสะอาด และป้องกันการเกิดขี้เกลืออีกด้วยการทาจาระบีที่ขั้วแบต

• ตรวจระดับน้ำกลั่นแบตเตอรี่ทุกๆ สัปดาห์ (สำหรับแบตเตอรี่แบบเปียก) หากพบว่ามีการลดระดับลงให้เติมน้ำกลั่นลงไปในระดับที่กำหนด ห้ามเติมเกินระดับเพราะอาจจะทำให้ล้นออกมาเลอะห้องเครื่องได้

• จุกปิดแบตเตอรี่นั้นต้องขันให้แน่น และทำความสะอาดรูระบายอากาศเป็นประจำ ห้ามมีสิ่งสกปรกเข้าไปอุดตันเป็นอันขาด

• การล้างห้องเครื่องจะทำให้ไม่มีสิ่งสกปรกจากห้องเครื่องให้ไปอุดตันแบตเตอรี่

• หุ้มฉนวนกันความร้อนบนแบตเตอรี่ ด้วยสภาพอากาศเมืองไทยที่ร้อนจัดและการใช้งานด้วยการจราจรที่ติดขัด ทำให้อุณหภูมิของแบตเตอรี่ร้อนเกินไป อาจทำให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพเร็วขึ้นได้ การหุ้มฉนวนกันความร้อนไว้จะทำให้แบตเตอรี่อยู่ในอุณหภูมิที่เหมาะสมและทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

• ใช้อุปกรณ์ไฟฟ้ารถยนต์ในขณะที่ติดเครื่องอยู่เท่านั้น เพราะการขับเคลื่อนของเครื่องยนต์จะส่งพลังงานกลับไปที่แบตเตอรี่หาก ดับเครื่องยนต์อุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ ในรถ ก็จะมาใช้ไฟจากแบตเตอรี่โดยตรง เช่น ระบบวิทยุ ระบบไฟทั้งในและนอกรถ ทำให้กินไฟมากขึ้นและลดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่อีกด้วย

• สตาร์ทเครื่องยนต์บ้างสัปดาห์ละ 1 ครั้ง หากต้องจอดรถยนต์ไว้นานหลายวัน เพื่อหลีกเลี่ยงการคายประจุของแบตเตอรี่ที่ทำให้เก็บไฟได้น้อยลง

• การดูแลรักษาเครื่องยนต์อยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการนำรถเข้าไปตรวจเช็คสภาพที่ศูนย์บริการตามระยะที่กำหนด เพื่อทำการเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง, น้ำมันเกียร์ ฯลฯ เนื่องจากการทำงานของเครื่องยนต์นั้นสัมพันธ์กันทุกส่วน หากส่วนใดส่วนหนึ่งต้องเสียหรือพังลงไป ย่อมส่งผลต่อส่วนอื่นๆเช่นกัน

ขอบคุณข้อมูลจาก : boxzaracing