5 อาการ รีบดูแลก่อนรถจะเจ๊ง

เชื่อเลยว่าหลายๆคนคงไม่ได้สนใจหรือสังเกตความผิดปกติของรถยนต์ที่ตนเองขับกันมากนัก โดยเฉพาะผู้หญิง อาจจะรู้เรื่องรถน้อยกว่าผู้ชาย แต่รู้หรือไม่ว่า วิธีง่ายๆที่เราจะสามรถดูแลรักษารถให้อยู่กับเราไปนานๆนั้น เป็นเรื่องที่ง่ายนิดเดียว เพียงแค่รู้จักสังเกตอาการแปลกๆของรถที่กำลังจะบอกคุณว่าดูแลฉันเถอะ ฉันกำลังจะแย่แล้ว

1. สตาร์ทเครื่องยนต์นานกว่าปกติ

รู้หรือไม่ว่าการสตาร์เครื่องยนต์นานกว่าปกตินั้นแสดงว่ารถกำลังเริ่มมีปัญหาแล้ว สังเกตง่ายๆจากการสตาร์ทเครื่องยนต์ ซึ่งปกติจะใช้การถีบตัวไม่เกิน 3 ครั้ง และใช้เวลาไม่เกิน 30 วินาที ถ้านานกว่านั้นแสดงว่ารถเริ่มมีปัญหาแล้ว แบตเตอร์รี่อาจจะเริ่มเสื่อมสภาพ ต้องรีบเช็คกันหน่อยแล้ว อย่าปล่อยไว้นาน ไม่อย่างนั้นอาจจะทำให้เสียเงินในการซ่อมมากขึ้น ทั้งยังอาจจะพาลทำให้ไดสตาร์ทพังไปด้วยก็ได้

2. รถเร่งแล้วแต่ทำไมอืดกว่าเดิม

สังเกตง่ายๆจากการที่คุณขับรถทุกๆวันว่า ถ้าเมื่อไหร่ถคุณเร่งแล้วรู้สึกอืดๆ ไม่พุ่งเหมือนเดิมนั้น แต่สังเกตดูสิ่งรอบๆตัวอย่างอื่นแล้วไม่มีความผิดปกติแต่อย่างใด นั่นหมายถึงว่ารถคุณ อาจจะต้องการการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องแล้ว แต่หากพึ่งถ่ายมา ก็จะมีอีก 2 ตัว ที่น่าสงสัย คือ กรองน้ำมันเชื้อเพลิง และกรองอากาศ ทางที่ดีเอารถไปเช็คเถอะจะได้ไม่ต้องมานั่งสงสัยกันอีกต่อไป

3. พบร่องรอยน้ำมัน

หัดสังเกตกันหน่อยว่า มีร่องรอยน้ำมันหยดเป็นทางตอนที่คุณจอดรถอยู่หรือไม่ และหากพบอย่านิ่งนอนใจไปเด็ดขาด เพราะตามปกติแล้วน้ำมันจะไม่สามารถหยดได้เอง จะต้องมีอะไรผิดปกติและเกิดความเสียหายต่อระบบอะไรสักอย่างแน่ๆ ดังนั้นทางทีดีควรเอารถไปเช็คน่าจะดีกว่า

4. ควันขาวออกจากท่อ

การที่มีควันขาวออกมาจากท่อ พร้อมกลิ่นฉุนๆ ให้รู้ไว้เลยว่ากำลังเกิดสิ่งผิดปกติเกี่ยวกับเครื่องยนต์แล้ว ซึ่งมันมีหลายอาการมาก ดังนั้นควรรีบเอาไปพบช่างจะดีที่สุด

5. ขับรถแล้วดูนุ่มนวลผิดกว่าปกติ

อันนี้ให้สันนิษฐานว่าช่วงล่างอาจเกิดความผิดปกติแล้ว ลมยางคุณอาจจะอ่อน ระบบช่วงล่างบางชิ้นส่วนอาจจะเสื่อมสภาพ โดยมากก็จะเป็น สปริง หรือโช๊ค ดังนั้นหากคิดว่าขับรถแล้วรู้สึกขับรถนิ่มมากผิดปกติ ก็รีบเอาไปเซ็คช่วงล่างกันด่วนๆ

ขอบคุณข้อมูลจาก : 3mautofilmclub